การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซี มะเร็งตับอ่อน - ไวรัสตับอักเสบซี

การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซี

 

     โรคไวรัสตับอักเสบซี หากรักษาถูกวิธี ก็มีโอกาสหายขาดได้ โดยปรกติ แพทย์จะฉีดยา “Pegylated Interferon” ร่วมกับการ รับประทานยา “Ribavirin” เป็นเวลาประมาณ 24 – 48 อาทิตย์ ผู้ป่วยมีอากสหายขาดได้สูงถึงร้อยละ 85 ในปัจจุบันยังไม่มี วัคซีนป้องกัน โรคไวรัสตับอักเสบซี ดังนั้นการป้องกัน ปัจจัยเสี่ยง ในการเป็นโรค จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการรักษา โรคไวรัสตับอักเสบซี

 

การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซี

  • ผู้ป่วยที่เป็น ไวรัสตับอักเสบเฉียบพลัน เนื่องจากผู้ป่วยที่เป็น โรคตับอักเสบ ชนิดเฉียบพลัน จะไม่ค่อยแสดงอาการ โดยทั่วไปเมื่อไปพบแพทย์ แพทย์ก็จะรักษาตามอาการ เท่านั้น เช่น ถ้าผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลีย แพทย์ก็จะแนะนำ ให้นอนพักผ่อนเยอะๆ ไม่นอนดึก ตลอดจนให้หลีกเลี่ยง การรับประทานอาหาร จำพวกหมักดอง เป็นต้น
  • ผู้ป่วยที่เป็น ไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง ส่วนใหญ่ผู้ที่ติดเชื้อ ไวรัสตับอักเสบซี จะกลายเป็นผู้ป่วยที่เป็น โรคไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง จนตับเสื่อมสมรรถภาพ ในที่สุดก็จะเป็นตับวาย ตับแข็ง และเป็นมะเร็งตับได้ ปัจจุบันแพทย์ จะใช้ยาที่เป็นมาตรฐาน ในการรักษาคือการให้ยา 2 ตัวร่วมกันคือ แพทย์จะฉีดยา “Pegylated Interferon” ร่วมกับการรับประทานยา “Ribavirin” เป็นเวลาประมาณ 24 – 48 อาทิตย์ ซึ่งตัวยาทั้งสอง จะให้ผลดีคือ การกำจัดไวรัสให้หมดไป และไม่เป็นซ้ำอีก หลังจากหยุดยา
  • การป้องกันไวรัสตับอักเสบซี ถือว่าเป็นการรักษาชีวิตได้ดีที่สุด เพราะในปัจจุบัน ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ไวรัสตับอักเสบซี แต่เราก็สามารถ ลดการสุ่มเสียง ต่อการเกิดโรค ได้ด้วยตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็น การเลือกเจาะหูที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ การไม่ใช้เข็มฉีดยา ร่วมกับคนอื่น การไม่ใช้มีดโกนร่วมกับคนอื่น ฯลฯ
การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซี มะเร็งตับอ่อน - ไวรัสตับอักเสบซี

การปฏิบัติตัวของผู้ที่เป็น โรคไวรัสตับอักเสบซี

ไวรัสตับอักเสบซี เป็นไวรัสที่ทำให้เกิด ความรุนแรงต่อตับ ซึ่งถ้าไม่รักษาให้ถูกวิธี อาจก่อนให้เกิด การติดเชื้อเรื้อรัง มีอาการตับอักเสบเรื้อรัง ทำให้เป็นตับแข็ง และเป็นมะเร็งตับได้

อ่านต่อ...