สาเหตุการติดต่อของ ไวรัสตับอักเสบบี
โรคไวรัสตับอักเสบบี เป็นโรคที่ติดต่อจากคน ที่เป็นพาหะ โดยเชื้อไวรัสตับอักเสบบี จะพบได้มากที่สุดในเลือด รองลงมาก็จะเป็น น้ำลาย น้ำตา น้ำเชื้อ น้ำเมือก ของผู้หญิง น้ำดี และน้ำนม ของผู้ป่วยที่มีเชื้อ ไวรัสบี หรือผู้ที่เป็น พาหะของ โรคไวรัสตับอักเสบบี
สาเหตุการติดต่อของ ไวรัสตับอักเสบบี จากคนสู่คน มีดังต่อไปนี้
- การมีความสัมพันธ์ กับคนที่มีเชื้อ หรือเป็นพาหะโรค ไวรัสตับอักเสบบี โดยไม่สวมใส่ ถุงยางอนามัย แต่จะไม่ติดต่อกันผ่านทาง การกอด การจูบ การสัมผัสทางผิวหนัง (การจูบปากกับผู้มีเชื้อ หรือ พาหะไวรัสบี ถ้าปากไม่มีบาดแผลก็จะไม่ติดเชื้อ)
- สาเหตุการติดต่อของ ไวรัสตับอักเสบบี จากการติดต่อทางเลือด และน้ำเหลือง เช่น การถ่ายเลือด หรือการฟอกเลือด ด้วยไตเทียม จากสถานพยาบาล คลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยเลือดบริจาค ทุกขวดก่อน ที่จะถ่ายไปสู่ผู้อื่น ต้องได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสบี และเชื้อโรคอื่นๆ ก่อนทุกครั้ง
- การใช้สิ่งของร่วมกันกับ ผู้มีเชื้อหรือผู้ที่เป็นพาหะ ของโรคไวรัสบี เช่น การใช้เข็มฉีดยา ร่วมกับผู้มีเชื้อ การใช้เข็มสัก ตามตัวร่วมกับผู้มีเชื้อ การเจาะหูโดยใช้เข็มร่วมกับผู้มีเชื้อ การใช้แปรงสีฟันร่วมผู้มีเชื้อ การใช้มีดโกนร่วมกับผู้มีเชื้อ การใช้ที่ตัดเล็บร่วมกับผู้มีเชื้อ
- การติดต่อจากแม่สู่ลูก จากการศึกษาวิจัยพบว่า แม่ที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบี สามารถติดต่อ ไปยังลูกได้ ในขณะที่กำลังคลอด ได้ถึงร้อยละ 90 และทารกแรกเกิด ที่ได้รับเชื้อไวรัสบี จากแม่ มักจะไม่แสดงอาการ ว่าป่วยเป็น โรคไวรัสตับอักเสบ แต่จะกลายเป็นพาหะ เรื้อรังนานหลายสิบปี หรือเป็นพาหะไปตลอดชีวิต แต่ทารกบางคนเมื่อโต เป็นผู้ใหญ่ ในวัยกลางคน จะมีโอกาสเป็น โรคเรื้อรัง จนกลายเป็นมะเร็งตับ หรือตับแข็งได้ และจากการศึกษาวิจัย ยังพบอีกว่า ผู้ชายเสี่ยงต่อการเป็น มะเร็งตับและ ตับแข็งมากกว่าผู้หญิง ส่วนผู้หญิงจะเป็นพาหะ ถ่ายทอด เชื้อไวรัสตับอักเสบบี ไปสู่ลูก ดังนั้น ก่อนแต่งงาน หรือก่อนที่จะมี ความสัมพันธ์กัน ควรจะให้แพทย์ตรวจหา เชื้อไวรัสตับอักเสบก่อน หรือตรวจหาโรคอื่นๆ ก่อนจะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
