เด็กพิเศษ มาจากคำเต็มๆว่า “เด็กที่มีความต้องการพิเศษ” ซึ่งหมายถึง เด็ก หรือกลุ่มเด็ก ที่จำเป็นต้องได้รับการดูแล และได้รบการช่วยเหลือ เป็นกรณีพิเศษ เพิ่มเติม ไปจากวิธีการตามปกติ ทั้งในด้าน การใช้ชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ และการเข้าสังคม เพื่อให้เด็กได้ รับการพัฒนา เป็นไปอย่างเต็มตาม ศักยภาพของเขาเอง โดยการได้รับการดูแล ช่วยเหลือ ตามแบบลักษณะความจำเป็น และความต้องการของเด็ก แต่ละคน
เด็กพิเศษ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
คำว่า "เด็กพิเศษ" ในปัจจุบันมักหมายถึง กลุ่มเด็กที่มีความบกพร่องเท่านั้น ส่วนเด็กที่มีความสามารถพิเศษ กับกลุ่มเด็กยากจนและด้อยโอกาส มักไม่ค่อยเรียกว่าเป็นเด็กพิเศษ
เด็กที่มีความบกพร่อง คือเด็กที่มีการพัฒนา ทางสติปัญญาช้ากว่า เด็กธรรมดาทั่วไป เนื่องจากมีการ หยุดการพัฒนาของสมอง เมื่อถึงระดับหนึ่ง
การที่สมองของเด็ก มีการพัฒนาทางสติปัญญาช้ากว่า เด็กทั่วไป ไม่ได้หมายความว่า เด็กคนนั้นจะต้องเป็น เด็กปัญญาอ่อนเสมอไป เพราะระบบการพัฒนาการของเด็ก แต่ละคนจะมีลักษณะเฉพาะตัว ดังนั้นการพัฒนาการ ของแต่ละคน จึงมีการพัฒนาที่ช้าเร็ว ไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น เด็กบางคนคลาน หรือเดิน ก่อนเด็กคนอื่นที่เกิดพร้อมกัน แต่พูดทีหลังเด็กคนอื่นที่เกิดพร้อมกัน เป็นต้น
เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีการพัฒนา แต่ละด้านแตกต่างกันออกไป ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ ไม่ต้องกังวลว่า ลูกของเราจะเป็นเด็กปัญญาอ่อนหรือไม่ เพราะตราบใดที่ ลูกของคุณมีพัฒนาการ และสามารถผ่านกระบวนการ ของขั้นตอนการพัฒนาการในแต่ละช่วง ไม่ว่าจะเป็น การรู้จักการยกศีรษะขึ้น รู้จักการเอื้อมมือไปจับสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ด้านหน้า การแสดงออกทางใบหน้า มีการพยายามคลาน พยายามหัดนั่ง พยายามหัดยืน พยายามหัดเดิน และการพูดออกเสียงเป็นคำต่างๆ ได้ตามระยะเวลา หรืออาจช้ากว่า เวลาเฉลี่ยที่ควรจะเป็น ก็ไม่น่าวิตกแต่อย่างใด
แต่ถ้าหากการพัฒนาการต่างๆ ของเด็กผิดปรกติไปอย่างเห็นได้ชัด ก็ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อแพทย์จะได้ทำการวินิจฉัย ว่าเด็กมีความบกพร่อง ทางด้านใด และเป็นเด็กปัญญาอ่อนจริง หรือไม่ ซึ่งถ้าหากเป็นเด็กปัญญาอ่อนจริง จะได้หา หาทางบำบัดดูแลรักษาต่อไป