ยาฝังคุมกำเนิด

     วิธีการฝังยาคุมกำเนิด เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่ป้องกันการตั้งครรภ์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยาฝังคุมกำเนิด จะมีลักษณะเป็น หลอดพลาสติก เล็กๆ หลอดเดียว มีขนาดของความกว้างพอๆ กับไม้จิ้มฟัน มีความยาวประมาณ 4 เซนติเมตร ภายในหลอดพลาสติก จะมีฮอร์โมน โปรเจสโตเจนบรรจุอยู่

     สามารถจำแนกยาคุมแบบฝั่งเข็ม ออกเป็น 3 แบบดังนี้

• ชนิดฝัง 6 แท่ง มีลักษณะเป็นแคปซูลขนาด 2.4 mm x 34 mm แต่ละแท่งมีตัวยา 36 mg ใช้คุมกำเนิดได้นาน 5 ปี
• ชนิดฝัง 2 แท่ง มีลักษณะเป็นแท่งขนาด 2.5 mm x 43 mm แต่ละแท่งมีตัวยา 75 mg ใช้คุมกำเนิดได้นาน 3-5 ปี
• ชนิดฝัง 1 แท่ง มีลักษณะเป็นแท่งที่บิดงอได้ ขนาด 2 mm x 40 mm มีตัวยา 68 mg ใช้คุมกำเนิดได้นาน 3 ปี

     แพทย์จะทำการฝังยาคุมกำเนิด ที่บริเวณต้นแขน และเมื่อมีการ ฝัง ยาคุม จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้เป็นปี และนานสุดถึง 3 ปี จึงเหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการ คุมกำเนิดระยะยาว หรือเหมาะสำหรับ ผู้ที่ไม่ชอบ การฉีดยาคุมกำเนิดบ่อยๆ หรือเหมาะสำหรับ ผู้ที่ชอบลืมกินยา หรือกินยาคุม แล้วอ้วน มีการการคลื่นไส้อาเจียน นอกจากนี้ผู้ที่จะใช้ยาฝัง จะต้องไม่มีข้อต้องห้าม ของการใช้ฮอร์โมน เช่น ไม่มีเลือดออกโดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่าง การตั้งครรภ์ ไม่เป็นผู้ป่วยโรคมะเร็ง ไม่เป็นผู้ป่วยเนื้องอก เป็นต้น

ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อใช้ ยาคุมกำเนิดแบบฝัง

• ในช่วงประมาณ 2-3 เดือนแรก อาจจะมีเลือดออกแบบกะปริดกระปรอย แต่ก็ไม่มากเท่าไร และจะเป็นอยู่อย่างนี้ สักพักบางคนอาจจะมี เลือดออกแบบกะปริดกระปรอย นานมากกว่า 5-6 เดือนกว่าจะหายเป็นปรกติ
• อยากกินโน่นกินนี่ หากไม่รู้จักการควบคุมร่างกาย และไม่ออกกำลังกาย น้ำหนักอาจเพิ่มขึ้นได้ แต่ก็มีบางคนพอ ใช้ยาคุมกำเนิดแบบฝัง น้ำหนัก จะลดลงแต่ก็ส่วนน้อย เพราะส่วนใหญ่ ผู้ที่ใช้ ยาฝังคุมกำเนิด จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น
• ในช่วงแรกๆ ที่มีการฝังยาคุม อาจจะเจ็บๆ คันๆ บริเวณที่ฝัง
• มีอารมณ์แปรปรวน โมโหง่าย
• บางคนอาจจะมีสิวฝ้า ขึ้นที่ใบหน้า หรือผมร่าง
• รังไขโต เต้านมคัด ฯลฯ