การกินยาคุมฉุกเฉิน
การเลือกใช้ ยาเม็ดคุมกำเนิด แบบฉุกเฉิน เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่สามารถช่วยป้องกัน การตั้งครรภ์ได้ แต่อาการข้างเคียงของ ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีมากกว่า วิธีการคุมกำเนิด ด้วยวิธีอื่นๆ ดังนั้น แพทย์จึงแนะนำว่า ควรเลือกใช้ ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน เฉพาะกรณีที่ไม่ได้ คุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น เช่น ลืมกินยาคุมกำเนิด ลืมฉีดยาคุมกำเนิด ถุงยางอนามัยรั่ว การถูกข่มขืน เป็นต้น
ชนิดของยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน มีอยู่ 2 วิธีให้เลือกใช้ได้แก่
- ยาโปรเจสโตเจนขนาดสูง 750 ไมโครกรัม หรือ 0.75 มิลลิกรัม โดยจะมี 2 เม็ด ให้กินยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินเม็ดที่ 1 ภายในเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังจากที่มีความสัมพันธ์ทางเพศ หลังจากกินยาเม็ดแรกไปแล้ว นับไปอีก 12 ชั่วโมงจึงค่อย กินยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน เม็ดที่ 2 สำหรับ อาการข้างเคียงที่พบบ่อย ในการกินยาโปรเจสโตเจนขนาดสูง 750 ไมโครกรัม เช่น คลื่นไส้ ปวดศีรษะ แต่จะน้อยกว่าวิธีที่สอง
- ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน ชนิดฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ หรือ เอสโตรเจน 30 ไมโครกรัม ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินชนิดนี้หาซื้อได้ ตามท้องตลาดทั่วไป วิธีการกินยาเม็ดคุมกำเนิด เอสโตรเจน 30 ไมโครกรัม คือ หลักจาก ที่มีความสัมพันธ์ทางเพศ ให้กินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจำนวน 4 เม็ด ภายในเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง หลังจากนั้นนับไปอีก 12 ชั่วโมง จึงค่อย กินยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน อีกจำนวน 4 เม็ด
ข้อแนะนำใน การกินยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน เมื่อเสร็จภารกิจ หรือ หลังจากที่มีความสัมพันธ์ทางเพศ ให้กินยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน ครั้งแรก ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ต้องรอให้ถึง 72 ชั่วโมงหรอกค่ะเดี๋ยวจะสายเกิน นอกจากนี้ต้องคำนวณเผื่อเวลาใน การกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ครั้งที่ 2 ด้วยนะค่ะ
อาการข้างเคียงและข้อควรระวัง
- ผู้ที่กินยาอาจจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งส่วนมากมักพบหลังจาก รับประทานยาไปได้ประมาณ 10 - 15 นาที
- มีอาการปวดศีรษะหรือปวดท้อง หรือบางคนที่ร่างกายอาจต่อต้านยาคุม หรือต้องปรับร่างกายตามฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้มีอาการปวดศีรษะหรือปวดท้องได้
- จะส่งผลกระทบต่อเนื่อง อาจจะทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- การรับประทานยา เสี่ยงต่อการท้องนอกมดลูก
- นอกจากนี้ ผลการศึกษาพบว่า ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน อาจทำให้ร่างกายขาดแร่ธาตุแคลเซียม ซึ่งจะส่งผลให้เกิดภาวะกระดูกพรุนได้ในอนาคต